จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ไม่จำกัด ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | พระเครื่องเนื้อผงพุทธคุณ,เนื้อดิน,เนื้อว่าน |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ไฮไลท์ |
พระคำข้าวหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง พระคำข้าวหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ปี2534 รุ่นสอง
|
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
พระคำข้าว (พระมหาลาภ) เป็นพระเนื้อผงสีขาวปางมารวิชัย สร้างแบบพระพุทธชินราช มี ๒ รุ่น
.
รุ่นที่ ๑ ปลุกเสกเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๓๓ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ องค์
.
รุ่นที่ ๒ สร้าง ๕,๐๐๐,๐๐๐ องค์ ปลุกเสก ๒ ครั้ง คือ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๓๓ และ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๓๔
.
ด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ นั่งในกรอบรูปพัดยศ มีชื่อ พระราชพรหมยาน อยู่ตรงที่นั่ง
.
![]() คำอาราธนา ให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหมด รวมทั้ง เทวดาและพรหม ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.อยุธยา เป็นที่สุด
แล้วตั้งนะโม ๓ จบ ปฎิบัติตามปกติว่า อิติปิโส ๑ จบ หลังจากนั้นให้อธิษฐานเอาตามความประสงค์ เมื่ออธิษฐานแล้ว ปลุกด้วยคาถาปลุกพระของหลวงพ่อปานว่า
“ อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะ เดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่ง แก่มะอะอุนี้เถิด”
เกร็ดความรู้บางอย่างที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุงพูดถึงเกี่ยวกับพระคำข้าว
.
(คัดลอกจากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๙ โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ)
.
อันดับแรกที่เราจะทำอะไรทั้งหมด ตื่นขึ้นมาใหม่ๆ นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อน นึกถึงด้วยความเคารพ เพื่อหวังพระนิพพานก็ตาม
นึกถึงเพื่อขอลาภสักการะก็ตาม ก็ถือว่าเป็นการนึกถึงพระพุทธเจ้าเหมือนกัน
อันดับแรก อย่างมี
พระคำข้าวน่ะ หนักไปในทางลาภสักการะ อย่างอื่นก็มีหมด แต่ลาภน่ะหนักมาก และก็หยิบขึ้นมาพนมมือสาธุ ว่า "นะโม ตัสสะ" ใช่ไหมว่า "นะโม ตัสสะ"
ด้วยความเคารพ และอธิฐานว่าวันนี้ต้องการ...(ลาภอย่างไร)
เป็นอันว่าเราอยากจะให้ค้าขายดี ทำราชการดี เมตตาปราณี อะไรก็ตามเถอะ
ก็อย่าลืมว่าเวลานั้นเรานึกถึงพระพุทธเจ้า เราขอบารมีจากท่าน
อย่างนี้ถือว่าเป็น "ฌาน" ใน "พุทธานุสติกรรมฐาน"
ถ้านึกถึงทุกวันน่ะ #ถ้าถึงเวลาแล้วต้องทำอย่างนั้นทุกวัน
ถ้าไม่ทำแล้วไม่สบายใจ นั่นเป็น "ฌาน" ใน "พุทธานุสติ" เป็นของง่ายๆ
เพราะวันนี้ท่านบอกให้พูดง่ายๆ ใช้วิธีง่ายๆนะ ก็ว่าตามท่าน
ทีนี้เมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัทนึกถึงพระพุทธเจ้าแล้ว #อย่าลืมพระที่คอ #นี่คือพระพุทธเจ้า
อย่าง #พระคำข้าวเป็นพระพุทธชินราช อย่าลืมน่ะ
คือก็เหมือนกับพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งนั่นแหละเป็นองค์แทนพระพุทธเจ้าท่าน
และเวลาทำจริงๆ พระพุทธเจ้าท่านก็มาทำ อันนี้ไม่ได้โฆษณานะ พูดให้ฟัง! คือเวลาทำจริงๆ #พระพุทธเจ้าทุกองค์เสด็จมาหมด #องค์ปฐมเป็นประธานอยู่ข้างบนใช่ไหม และองค์ปัจจุบันคุมฉัน ท่านปล่อยกระแสจิตพุ่งสว่างเป็นลำพุ่งมาที่ใจฉัน
แล้วบอกเธอนั่งนิ่งๆ อย่าคิดถึงเรื่องอะไรทั้งหมด
ห้ามดูอะไรทั้งหมด ให้ทรงอารมณ์เฉยๆ ๑๐ นาที ก็ทำตามท่าน
แล้วท่านก็สั่งว่าให้ว่า อิติปิโสฯ หลัง ๑๐ นาทีแล้ว ท่านบอกดูได้
พุ่งใจไปที่ของได้ พอพุ่งใจไปที่ของ ที่เห็นเป็นลำ #ไม่เห็นของที่ปลุกเลย
"พระคำข้าว" เด่นทางมหาลาภ มีรูปพระพุทธชินราช (พระพุทธกัสสป) ด้านหน้า และด้านหลังเป็นรูปหลวงพ่อ
หลวงพ่อเคยบอกว่า สมเด็จเด็จองค์ปฐม ได้ให้พระพุทธกัสสป-พระพุทธทีปังกร คุมเรื่องลาภ
(คัดลอกจากหนังสือธัมมวิโมกข์ฉบับที่ ๑๔๕ หน้า ๖๓)
.
..."องค์ปฐมก็มา และพระพุทธกัสสปก็มา สมเด็จพระพุทธทีปังกรก็มา...
.
องค์ปฐมท่านบอกว่า เรื่องลาภนะ สมเด็จพระพุทธกัสสป หนักที่สุด และรองลงมาคล้ายคลึงกันคือ สมเด็จพระพุทธทีปังกร ก็เลยถามท่านว่า "พระพุทธเจ้ามีบารมีเต็มเหมือนกัน ทำไมแตกต่างกันเรื่องลาภ"
ท่านบอกว่า "สุดแล้วแต่การเริ่มต้น คู่อันไหนแรงกว่ากัน"...ท่านบอก "ให้พระพุทธกัสสปคุมเพราะลาภมาก" องค์ปฐมบอกว่า..."ลีลาต่างกันนิดหนึ่ง...
.
...สมเด็จพระพุทธทีปังกร : มีกำลังแข็งมากสู้แรงมาก
.
...พระพุทธกัสสป : ท่านนิ่มนวลในทางลาภมหาศาล
.
...แต่ลาภมหาศาลทั้งคู่ : ท่านก็เลยบอกว่าเป็นหน้าที่ของทั้ง ๒ องค์
หลวงพ่อเคยบอกเกี่ยวกับราคาพระคำข้าวในอนาคต
.
(ท่านพูดไว้เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ในหนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๒๓ ประจำเดือนพฤษภาคม หน้า ๑๕)
.
-หลวงพ่อ: ...."ก็ก่อนจะทำ (ทำพระคำข้าว) พระพุทธเจ้าท่านบอกแล้วให้ทำ #บอกให้มันรวยทั้งวัดทั้งบ้าน
คือว่าเอาไปขึ้นราคานิดหน่อยใช่ไหม ๑๐๐, ๒๐๐ ไม่หนักนัก อีก ๓๐ ปีหลายหมื่น
วันปลุกเสกพระคำข้าว (รุ่น 2)
เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ปลุกเสกพระคำข้าวมหาลาภนั้น ลูกไม่มีโอกาสไปร่วมพิธี แต่ก็ฝากเงินทำบุญร่วมโมทนาด้วย แต่ที่จะกราบเรียนถามก็คือว่าอย่างนี้ ส่วนใหญ่ 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้เข้าไปร่วมพิธี ก็อยากเรียนถามหลวงพ่อว่าวันนั้นมีอะไรพิเศษที่พอจะเล่าให้ลูกหลานฟังได้บ้างหรือไม่ เช่น หมาหอน ไฟดับ เป็นต้นเจ้าค่ะ
หลวงพ่อ : เขารู้แล้ว เขาถามหมาหอน ไฟดับ ที่ไม่รู้มีอยู่อย่าง ขาฉัน 1 ข้างขยับไม่ได้ คือว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน 1.มีฉัน 2.มียกทรง 3.ฉัน 4.ยกทรง (หัวเราะ)
มียังนี้นะ ตามธรรมดาปลุกพระ ตามปกติที่ปลุกมาแล้วนะ ที่ผ่านมาก็มี พระโมคัลลาน์ พระสารีบุตร คุมฉัน คอยคุมอารมณ์ สูงไป เครียดไป ต่ำไป ให้พอดี
.
แต่ว่าตั้งแต่ปลุกพระคำข้าวรุนก่อนก็ดี พระหางหมากก็ดี คำข้าวรุ่นนี้ก็ดี องค์ปัจจุบันคุมฉันเอง และวิธีคุมท่านไม่พูด ท่านใช้แสงออกจากกายท่านนะ แสงสว่างมาก พุ่งมาที่กายฉัน และสั่งห้ามขยับเขยื้นใจ ให้ทรงตัวนิ่งๆ ให้ใจนิ่งสัก 10 นาที แล้วก็อนุญาตดูได้
.
พอดูได้ ก็เห็นสมเด็จองค์ปฐม นั่งขัดสมาธิองค์ใหญ่เบ่อเร่อเต็มวิหาร เหนือที่ปลุกเสกนะ และรอบๆนั้นก็พระพุทธเจ้าเต็มหมด แสงสว่างจ้า พระอรหันต์เต็ม
#ฉันไม่เห็นของที่ปลุกเสกเลย แสงหนามาก และแสงน่ะเปลี่ยน เป็นสีๆ อันดับแรก ท่านบอกคุณว่า อิติปิโส ไปครึ่งชั่วโมง ครึ่งชั่วโมงนี่ห้ามขยับเขยื้อน จิตใจขยับไหนไม่ได้เลยนะ
ตอนถึงครึ่งท่านบอกว่า #ช่วงนี้ทำรอบตัวทุกอย่าง #ทำทุกอย่างนะ ต่อไปหลังจากครึ่งชั่วโมงแล้วก็เปลี่ยน เปลี่ยนไปแต่ละอย่าง อย่าง ลาภบ้าง ป้องกันบ้าง อะไรบ้างว่าไป
![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
จัดส่ง ส่งEms เพิ่มเงิน 60บาท
|
Tags |